การไปดูบ้านเป็นเรื่องปกติธรรมดาในขั้นตอนของการ ซื้อบ้าน หรือ จะเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์อย่างอื่นๆ ที่เราควรมีการลงพื้นที่ เพื่อดูสภาพของอสังหาริมทรัพย์นั้นๆ ด้วยตนเองก่อนตัดสินใจอีกที จะได้มั่นใจว่าได้บ้าน หรือที่ดิน หรืออสังหาริมทรัพย์อื่นๆ ตรงตามความต้องการแน่ชัดแล้ว อีกทั้งยังได้รู้ว่ามันมีส่วนไหนหรือไม่ที่เป็นจุดบกพร่อง ต้องทำการแก้ไขหลังจากซื้อ หรือบางอย่างเราอาจจะขอให้เจ้าของบ้าน หรือเจ้าของโครงการจัดการให้เราก่อนเพื่อให้ได้บ้านที่สมบูรณ์ ซึ่งหากเขาไม่ทำให้ก็อาจจะได้ส่วนลดเพื่อให้เราเอาเงินส่วนนั้นไปซ่อมแซม หรือปรับปรุงเองหลังจากซื้อมาแล้วก็ได้เช่นกัน และอีกเรื่องที่สำคัญก็คือ ผู้ซื้อและผู้ขายจะได้มาพบปะพูดคุยกันด้วย (หากเป็นไปได้ทั้งสองฝ่ายควรมาพบกัน เพื่อที่จะได้ทำการตกลงเรื่องการซื้อขาย หรือเสนอเงื่อนไขของตนเอง)

ซึ่งในการไปดูบ้านนั้นเป็นเรื่องดีมากหากเราจะมีผู้ที่มีความรู้ตามไปด้วย เพื่อที่จะได้ช่วยเราดูในเรื่องที่เราไม่ชำนาญ อาจจะเป็นช่าง หรือสถาปนิก เพื่อดูเรื่องสภาพบ้านหรือโครงสร้าง รวมทั้งช่วยเราดูในเรื่องที่จะต้องแก้ไขเพิ่มเติมไปในตัว (เรื่องเพิ่มเติมไม่จำเป็นจำต้องเอาไปเจรจาเพราะมันเป็นเรื่องของเราที่จะทำในภายหลัง แต่เรื่องที่ต้องซ่อมแซมแก้ไข เราสามารถคุยกับเจ้าของบ้านได้) แต่อย่างไรก็ดี... ปัญหาหนึ่งที่เรามักพบและอาจเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้การซื้อขายไม่เกิดขึ้นหรือล้มเหลว ! ในการไปชมเพื่อ เลือกซื้อบ้าน ก็คือการที่มีคนร่วมในการดูบ้านครั้งนั้นมากเกินไป !

ในการไปดูเพื่อซื้อนั้น จริงๆ แล้วมันเป็นการตกลงใจของคนแค่ไม่กี่คน คือ ตัวผู้ซื้อกับผู้ขาย และอาจจะมีคู่รักอีกสักคน หรืออาจจะมีผู้เชี่ยวชาญอีกสักคน เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว เพื่อให้มันเกิดบรรยากาศที่สงบพอในเวลาที่เราต้องการเจรจา ทั้งสองฝ่ายจะได้มีสมาธิเพ่งมาที่ความต้องการของอีกฝ่าย เพื่อพิจารณาอย่างละเอียดได้ แต่บางครั้งเราพบว่ามีพลพรรคติดตามไปอยู่ในเหตุการณ์มากเหลือเกิน และไม่ทั้งจากฝ่ายคนไปดูเท่านั้น ฝ่ายขายก็พอกัน บางครั้งมากันเต็มไปหมด เคยมีกรณีนายทุนจะไปซื้อที่ดินแปลงใหญ่ถอยกลับยกเลิกการดูที่ดินมาแล้ว เพราะนายหน้าพากันมาเป็นคันรถ ! (แถมบางทีก็บวกญาติพี่น้องตามาชมเหตุการณ์เข้าไปอีก) ซึ่งเราอยากจะแนะนำว่า มันไม่มีความจำเป็นใดๆ เลยที่จะต้องมีคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับการตัดสินใจ หรือมีส่วนสนับสนุนเฉพาะด้านอย่างงานช่าง หรือที่ดิน เข้าไปมีส่วนร่วมในการดูบ้านครั้งนั้น เพราะรังแต่จะทำให้เกิดความวุ่นวายสับสนและผู้จะซื้อผู้จะขายไม่มีสมาธิในการเจรจาตกลงและพิจารณาบ้าน หรือพิจารณาเงื่อนไขของอีกฝ่าย หรืออาจก่อความไม่พอใจขึ้นได้ เพราะคนมากเกินไปจนรู้สึกไม่ดีทำให้การเจรจาล้มเหลวได้ง่ายๆ อีกทั้งหากมันเป็นบ้านส่วนตัวที่เจ้าของบ้านยังอยู่ที่นั่น แน่นอนว่าการเอาคนไปดูมากๆ เป็นการรบกวนเจ้าของบ้านมากเกินไป คงไม่มีใครชอบที่จะให้ใครไม่รู้จำนวนมากๆ เข้าไปในบ้าน ดังนั้นเราต้องให้ความเคารพในสิทธิ์ของเจ้าของบ้านที่เราจะไปดูด้วย

ขอย้ำอีกครั้งว่า ในการไปดูเพื่อ ซื้อบ้าน ผู้ซื้อและผู้ขายโปรดนำเฉพาะผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการตัดสินใจจริงๆ เท่านั้นไปเยี่ยมชม คนที่ไม่เกี่ยวข้องไม่จำเป็นไม่ต้องพาไป แม้แต่นายหน้า ก็ควรไปเพียงคนเดียวเท่านั้น เพื่อที่จะได้ทำให้การพบปะมีความสะดวกในการเจรจาต่อรอง แล้วการซื้อขายก็จะเกิดขึ้นได้ง่าย หากทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกัน