
- Moo We เมื่อ 23 เมษายน 2558 เวลา 08:58 น.
- 4,564 view
เหตุผล 5 ข้อ ที่ทำให้ขายบ้านไม่ได้สักที
การขายบ้านมันไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนว่าเราจะสามารถขายออกได้เมื่อไหร่ บางคนประกาศขายไม่กี่วันก็สามารถขายได้แล้ว แต่สำหรับบางคนติดป้ายประกาศขายกันเป็นปีๆ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะได้ขาย มันเป็นเพราะอะไร ?
การขายบ้าน เป็นเรื่องที่ค่อนข้างใหญ่ เนื่องจากมันเป็นทรัพย์สินที่มีราคาสูง อาจจะบอกว่าเป็นของที่แพงที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับคนทั่วไปที่เคยขายกันเลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี ในการขายบ้านมันไม่มีกำหนดเวลาที่แน่นอนว่าเราจะสามารถขายออกได้เมื่อไหร่ บางคนประกาศขายไม่กี่วันก็สามารถขายได้แล้ว แต่สำหรับบางคนติดป้ายประกาศขายกันเป็นปีๆ ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะมีเจ้าของใหม่มารับเอาความเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ไปสักที ! ซึ่งเรื่องนี้บางคนก็ว่าอยู่ที่ดวง บางคนก็ว่ามันอยู่ที่โอกาส ซึ่งก็อาจจะเป็นเช่นนั้นมนกรณีคนที่เชื่อ แต่อย่างไรก็ดีมันยังมีเรื่องของเหตุผล ที่เอาไม่อาจละเลยได้อยู่ด้วย !
เหตุผลที่ทำให้ขายบ้านไม่ได้สักที ที่มักพบ
1. เกิดจากการตั้งราคาสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น เรื่องนี้เป็นเหตุผลหลักที่พบบ่อยมากที่สุด บ่อยครั้งที่พบว่าบ้านที่ขายไม่ได้สักทีเกิดจากการตั้งราคาของเจ้าของที่ตั้งราคาแบบตามใจฉัน ! คือ อยากขายเท่าไหร่ก็ตั้งราคาเท่านั้น ไม่ได้ศึกษาตลาด และสภาพให้ดีก่อนว่าบ้านของเรานั้นควรมีมูลค่าเท่าไหร่ การตั้งราคาที่สูงเกินไปทำให้ไม่มีใครซื้อ แต่บางคนก็บอกว่า ได้ทำการดัดแปลงต่อเติม ปรับปรุงบ้านมามาก จะขายราคาใกล้เคียงกับคนอื่นๆ ในทำเลเดียวกันคงไม่ได้ เรื่องนี้ก็เป็นข้อเท็จจริงที่ว่าต้นทุนของบ้านที่ปรับปรุงแล้วของเราสูงว่า ทำให้ต้องตั้งราคาสูงกว่า แต่... เวลาที่คนซื้อมอง เขาอาจหันไปเลือกซื้อบ้านราคาต่ำกว่าในทำเลเดียวกันแทนก็ได้ เพราะเขาสามารถต่อเติมหรือปรับปรุงต่อได้เองในภายหลัง ซึ่งนี่ก็เป็นปัญหาที่ทำให้ราคาบ้านของเราตัดโอกาสในการขายไป
2. เกิดจากความไม่พร้อมในเรื่องการขายของเจ้าของบ้าน ข้อนี้ก็เป็นเรื่องที่พบได้บ่อย ความไม่พร้อมนี้รวมหลายอย่าง ตั้งแต่ไม่จัดแต่งสภาพบ้านให้น่าดูก่อนพาผู้สนใจมาชมบ้าน ดูแล้วรกรุงรังแบบนี้ก็ไม่น่าซื้อ หรือความไม่พร้อมในเรื่องเวลา หลายครั้งที่ผู้ขายไม่สามารถหาเวลามาเปิดบ้านให้ผู้สนใจดูได้ นั่นก็ทำให้เสียโอกาส เพราะเวลาคนเราเลือกซื้อบ้าน เขาไม่ได้เลือกมาดูบ้านของเราที่เดียว หากเราไม่พร้อมในเรื่องเวลา ก็ทำให้เสียโอกาส และเขาอาจไปดูบ้านหลังอื่นและเกิดถูกใจและตัดสินใจไปก่อนก็เป็นไปได้
3. เกิดจากการประกาศขายน้อยเกินไป หลายคนอยากขายบ้าน แต่มีเพียงป้ายประกาศเล็กๆ อยู่หน้าบ้าน แบบนี้มันก็เป็นการยากที่จะทำให้ผู้สนใจหาซื้อบ้านรับรู้ หากต้องการขาย เราควรหาทางนำเสนอและประกาศข่าวการขายของเราออกไปทุกทางเท่าที่จะทำได้ ไม่ว่าจะเป็นการติดป้ายหน้าบ้าน ติดป้ายในทำเลที่คนผ่านมากๆ การประกาศผ่านสื่อทั้งหลาย ทั้งสื่อออนไลน์ หรือสื่อทั่วไป ซึ่งสามารถเพิ่มโอกาสในการรับรู้ หากประกาศออกไปน้อยเกินไปก็ทำให้ขายไม่ได้ เพราะคนที่สนใจไม่รู้นั่นเอง
4. เกิดจากการนำเสนอผิดกลุ่มผิดคน เรื่องนี้ก็มีผล เพราะบ้านแต่ละหลังมักมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นทำเล หรือขนาด การนำเสนอขายผิดกลุ่มผิดที่ก็อาจทำให้ขายไม่ได้ อุปมาเหมือนไปเสนอขายผ้าอ้อมเด็กให้บ้านที่มีลูกอายุ 15 ปี แน่นอนว่าโอกาสขายได้ ณ เวลานั้นไม่มีทางเกิดขึ้น แต่... ไม่ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส เพราะอีก 8 ปี 10 ปี ข้างหน้าเมื่อเด็กคนนั้นมีลูกเขาอาจจะนึกถึงและมาซื้อผ้าอ้อมของเราก็ได้ แต่... นั่นเป็นเรื่องในอนาคตและแน่นอนอีกนาน ! ดังนั้นการนำเสนอขายผิดกลุ่มก็มีผลที่ทำให้เราขายบ้านไม่ได้เช่นกัน และเรื่องนี้ยังรวมถึงเรื่องศักยภาพในการซื้อของแต่ละคนด้วย ไม่ใช่ว่าทุกคนที่สนใจอยากซื้อบ้านจะมีศักยภาพในการซื้อบ้านได้เหมือนกันทั้งหมด มันยังมีปัจจัยเรื่องรายได้และโอกาสในการกู้เงินจากสถาบันการเงินอีก ดังนั้นการเสนอขายผิดคนก็มีผลทำให้เรารอเก้อไม่ได้ขายบ้านด้วยเช่นกัน จริงอยู่ว่าแบบนี้เราอาจจะได้เงินมัดจำมาเปล่าๆ แต่... สิ่งที่เราต้องการคือขายบ้าน ไม่ใช้ทำธุรกิจหารายได้จากเงินมัดจำ และอย่าลืมว่าในช่วงเวลาที่ทำสัญญาจะซื้อจะขายและรับมัดจำนั้น เราไม่สามารถไปเสนอขายใครได้ หากเขากู้เงินไม่ผ่าน หรือไม่พร้อมที่จะซื้อ โอกาสในการขายได้ของเราก็ยืดออกไปอีกเป็นเดือนๆ
5. ภาพในการประกาศเสนอขายไม่น่าสนใจ เนื่องจากปัจจุบันคนเลือกซื้อบ้านสามารถค้นหาข้อมูลได้ง่ายจากทาง internet และส่วนมากดูจากรูปเป็นสำคัญ ดังนั้นหากว่าเราใช้ภาพที่ดูไม่โดดเด่น ไม่สวยงาม โอกาสในการขายของเราก็ลดลงได้ เพราะผู้จะซื้อจะให้ความสนใจบ้านที่ดูจากภาพแล้วสวยก่อนเป็นหลัก
นี่เป็นเหตุผล 5 ข้อที่เรามักพบในบ้านที่ต้องการขายมานานแต่ขายไม่ออกสักที ซึ่งหากคุณเป็นอีกคนที่ต้องการขายบ้านได้ โปรดศึกษาให้ดีและแก้ไขในข้อผิดพลาดทั้งหมด แล้วโอกาสในการขายบ้านได้ของคุณจะเร็วขึ้นแน่นอน !
