
- Moo We เมื่อ 8 เมษายน 2558 เวลา 09:58 น.
- 4,191 view
วิธีเลือกทำเลบ้าน ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร
การซื้อบ้านจากโครงการบ้านจัดสรร เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมเนื่องจากมันสะดวก ได้บ้านเร็วทันใจ (เนื่องจากส่วนใหญ่ก่อสร้างไปแล้วหรือสร้างเสร็จแล้วก่อนขาย) และรู้ค่าใช้จ่ายที่แน่นอนไม่ต้องระวังเรื่องอาการ บานปลายของงบ แต่เราควรเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านแบบไหน ท
การซื้อบ้านจากโครงการบ้านจัดสรร เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมมากสำหรับกลุ่มคนที่อยากมีบ้าน เนื่องจากมันทำให้เราสามารถทราบราคาค่าใช้จ่ายในการจะมีบ้านสักหลังได้อย่างชัดเจน ซึ่งแตกต่างจากการสร้างบ้านเองที่ต้องทำใจเผื่องบบานปลายไว้อย่างน้อย 10-30% การซื้อบ้านจัดสรรไม่เป็นเช่นนั้นเรารู้ได้เลยตั้งแต่ตอนเลือกว่าเราจะต้องจ่ายเท่าไหร่ และมีสิ่งใดบ้างที่ต้องจ่ายเพิ่ม เช่น ค่าจัดการส่วนกลาง ซึ่งค่าใช้จ่ายส่วนนี้ก็เป็นการจ่ายไปเพื่อให้สภาพสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราดีขึ้น การซื้อบ้านจัดสรรจึงง่ายต่อการเตรียมค่าใช้จ่าย และในปัจจุบันก็มีการอำนวยความสะดวกในเรื่องการจัดหาและขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเอาไว้ให้ มันจึงเป็นความสะดวกในเรื่องค่าใช้จ่ายมากกว่าการซื้อที่ดินมาสร้างบ้านเอง
แต่อย่างไรก็ดี การที่เราจะอยู่ให้สบายในสิ่งที่คนอื่นสร้างเอาไว้ให้มันจะต้องเลือกกันสักหน่อย ซึ่งเราต้องเลือกตั้งแต่ทำเลที่ตั้งของโครงการหมู่บ้าน แบบบ้าน และตรวจสอบเรื่องวัสดุไปจนถึงคุณภาพของงานช่าง เพื่อให้เราได้ที่อยู่อาศัยที่ตรงกับความต้องการของเรา แต่ยังมีอีกอย่างที่เราจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเลือก นั่นก็คือ ทำเลที่ตั้งของบ้านที่เราจะซื้อในโครงการหมู่บ้านจัดสรร
การเลือกทำเลที่ตั้งของบ้านในโครงการหมู่บ้านจัดสรร
1. ควรเลือกบ้านที่อยู่ไม่ไกลทางเข้าออกมากนัก แต่ก็ไม่ใช่อยู่ใกล้จนเกินไป ทั้งนี้เนื่องจากเป็นตำแหน่งที่ทำให้เราได้รับความสะดวกสบายในการเดินทางเข้าออกหมู่บ้าน ใกล้หน่วยรักษาความปลอดภัย แต่จะไม่เกิดเสียงรบกวนจากรถที่เข้าออกมานัก นอกจากนั้นบริเวณบ้านของคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี เพราะอยู่ในโซนที่เป็นหน้าเป็นตาของหมู่บ้าน จะต้องมีการดูแลให้น่าดูเสมอ ทำให้มันเป็นจุดที่น่าสนใจและมีผลเป็นอย่างยิ่งในกรณีคุณต้องการขายก็จะขายได้ง่ายกว่า เพราะเป็นตัวเลือกแรกๆ ที่คนเห็น
2. ควรเลือกบ้านที่อยู่ตรงตำแหน่งหัวมุม เพราะมันทำให้รู้สึกไม่อึดอัดจากการถูกขนาบทุกด้าน บ้านที่อยู่หัวมุมจะมี 2 ด้านที่ไม่ติดกับใคร คือตรงถนนหน้าบ้านกับด้านข้างของบ้าน ทำให้รู้สึกว่าบ้านของเราโล่งกว่าหลังอื่นๆ และมีผลในเรื่องการไหลเข้าของลมธรรมชาติอีกด้วย
3. ควรเลือกบ้านจากทิศทางการตั้งของตัวบ้าน เรื่องนี้ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องฮวงจุ้ย แต่เป็นเรื่องของแสงแดด และกระแสลม บ้านที่มีหลังหาหันไปรับแดดตรงๆ หรือตั้งขวางการเคลื่อนของดวงอาทิตย์จะทำให้หลังคาทั้ง 2 ด้านถูกแดดส่องตรงๆ แต่หากเป็นแนวตามเส้นทางการเคลื่อนที่ของดวงอาทิตย์ ก็จะทำให้ช่วยลดความร้อนได้อีกมาก แต่หากเลือกไม่ได้ ก็คงต้องเลือกบ้านที่มีฉนวนหลังคาและผนังกันความร้อนช่วย
4. ควรเลือกบ้านที่มีวิวสวย ทุกหมู่บ้านจัดสรรย่อมมีตำแหน่งที่ตั้งของสวนหย่อม หรือส่วนที่เป็นสวนต้นไม้ที่ร่มรื่น บ้านที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สามารถเห็นธรรมชาติแบบนี้ทำให้เราสดชื่นและสบายตา และหากอยู่ใกล้พอก็จะได้รับร่มเงาจากต้นไม้ด้วยทำให้บ้านเย็นสบาย
5. ควรเลือกบ้านที่ตรงกับลักษณะการใช้ชีวิตของคุณ นี่เป็นข้อที่สำคัญที่สุด และมันอาจเอาชนะทุกคำแนะนำก่อนหน้าได้... หากคุณเป็นที่ไม่ชอบความครึกครื้น การอยู่ในทำเลเด่น อย่างจุดที่ใกล้กับสโมสร หรือสระว่ายน้ำของหมู่บ้านย่อมไม่เหมาะกับคุณแน่ แต่หากคุณชอบและนิยมการพบปะผู้คน ตำแหน่งยิ่งใกล้ก็ยิ่งดี หากคุณเป็นคนที่เดินทางบ่อย การอยู่ใกล้ทางเข้าออกก็ดีมาก แต่หากคุณเป็นคนที่มักอยู่ติดบ้าน และชอบความสงบเงียบ บ้านในส่วนด้านในๆ ก็เป็นสวรรค์สำหรับคุณ...
นี่เป็นวิธีเลือกทำเลบ้าน ในโครงการหมู่บ้านจัดสรร ที่จะทำให้คุณได้บ้านที่อยู่สบายและเหมาะที่สุดกับตัวคุณและครอบครัว
